วันนี้ผมขอเล่าประสบการณ์ถึงเรื่องของความสำเร็จในการทำสื่อออนไลน์ด้วยการสร้าง “Content” ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าการทำตลาดและการสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่างๆ บนโลกออนไลน์ในปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงและหลากหลายรูปแบบเพื่อจูงใจให้คนคลิกเข้าไปดู ยกตัวอย่างเคสของเว็บไซต์และเพจ ExtremeIT ที่ผมเริ่มต้นทำประมาณ 5 ปีก่อน และใช้เวลาเกือบ 3 ปี ถึงจะมีผู้ติดตามสามแสนกว่าคน เรียกว่าลองผิดลองถูกมาตลอด และต้องบอกก่อนว่า “ไม่มีสูตรความสำเร็จไหนที่จะได้ผลเท่ากับการลงมือและทดลองทำด้วยตัวเอง

ทำในสิ่งที่ “รัก” และสร้างคอนเทนต์ให้ “ตรง”

ต้องบอกก่อนเลยครับว่าเพจของผมเกิดจากงานที่ผมรัก เพราะโดยส่วนตัวผมชอบเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มากๆ เล่นเท่าไรก็ไม่เบื่อ จนได้ทำเพจและเปิดเว็บขึ้นมาแบบเล่นๆ ก่อน เริ่มต้นก็โพสต์เรื่องทั่วๆ ไปที่ชอบของเรา แต่สำคัญคือต้องโพสต์ไปเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ  โดยการเริ่มต้นทำในตอนแรกอยากจะให้มองว่า มันคือการลองผิดลองถูก ไม่มีใครทำแล้วดังเลยทันที แต่เราต้องค่อยๆ ปูทาง ลองหาคอนเทนต์หรือแนวที่คนอ่านหรือคนติดตามชอบให้มากที่สุด

ในส่วนของผู้ติดตามนั้น ต้องบอกเลยว่าเขาติดตามเราจากความเป็นตัวเรามากกว่าจะติดตามที่เพจ ดังนั้นการสร้างคอนเทนต์จึงต้องเน้นการนำเสนอความเป็นตัวเองออกมาให้มากที่สุด เพราะคนเรามีความชอบและความสนใจที่ไม่เหมือนกัน การตลาดออนไลน์นั้นจึงเป็นเหมือนกับการที่เราหากลุ่มคนออนไลน์ที่มีนิสัยคล้ายกันมากกว่า เพราะหากเรามีกลุ่มคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน เราจะอ่านและติดตามคอนเทนต์เหล่านั้นได้อย่างไม่เบื่อ

เทคนิคสร้างคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จ...ทริกเล็กๆ แต่ผลลัพธ์สุดปัง!

            เมื่อเราเปิดเพจ และพร้อมที่จะสร้างเนื้อหาเพื่อให้ผู้คนเข้ามาติดตามเพจของเราแล้ว อย่าลืมใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่จะคอยเรียกผู้ติดตามให้มา follow เพจของเรา    

1. สร้างคอนเทนต์สะกดให้ผู้ชมหยุดไถและกดเข้าไปดู

ธรรมชาติของคนเล่น Facebook โดยปกติทั่วๆ ไป เราจะไถไปเรื่อยๆ และจะหยุดอ่านก็ต่อเมื่อเห็นอะไรที่น่าสนใจ ดังนั้นจึงต้องสร้างภาพหรือเนื้อหาที่เล่นกับความสงสัยของคน หรือทำพาดหัวชวนให้คนหยุดดู  ไม่เชื่อลองทำคอนเทนต์ที่เหมือนกัน แต่ลองเปลี่ยนรูปปกหรือหัวเรื่องที่ต่างกัน รับรองว่าคนที่เข้ามาคอมเมนต์หรือโต้ตอบจะมีจำนวนที่ไม่เท่ากัน

2. คอนเทนต์ดีๆ สำคัญกว่าแค่ความสวย

ผมเห็นหลายคนตั้งใจทำภาพออกมาให้สวยมากๆ แต่กลับอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดที่เยอะมากๆ มันกลายเป็นว่า ผู้คนไม่ได้สนใจเพราะโดยทางสถิติแล้ว พออะไรที่มันเยอะคนกลับเบื่อ แต่บางคนทำภาพแบบคลีนๆ สะอาดๆ เน้นหัวข้อและเนื้อหาเป็นหลัก มันกลับได้ยอดคนเข้าชมได้มากกว่า

3.นอกเรื่องบ้างอย่าโฟกัสแต่เพียงยอดขาย

เรื่องนี้ผมเห็นมีหลายๆเพจโดยเฉพาะที่เป็นเพจขายของ วันๆ โพสต์แต่ขายสินค้า หรืออัพเดตยอดส่งของ อย่างเดียว  ลองมองมุมกลับกัน ถ้าเราเจอเรื่องซ้ำๆ เราคงไถข้ามไป อย่างส่วนตัวผมเปิดเพจเกี่ยวกับรีวิวอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ถ้าทั้งวันมีแต่โพสต์รีวิวของผมเชื่อว่า คนก็จะมองว่าเน้นแต่ขายของ เดิมๆ ซ้ำๆ  ผมจึงเติมทั้งข่าวสารอัปเดต หรือหากระแสข่าวต่างๆ ที่กำลังติดเทรนด์มาล้อเลียนบ้าง เพราะโดยธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ที่เล่นโซเชียล จะเข้ามาเล่นเพื่อคลายเครียด หากเราสร้างคอนเทนต์ที่ดูแล้วสบายๆ ติดตลกบ้าง ก็จะทำให้มีกลุ่มใหม่ๆ มาติดตามมากยิ่งขึ้น

4. อย่าอ้างว่าอุปกรณ์เราสู้เขาไม่ได้

อุปกรณ์ดีๆ มีส่วนในการสร้างคอนเทนต์ แต่ไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้างในการไม่ลงมือทำซักที เพราะตอนที่ผมเริ่มต้นทำนั้น ก็ใช้กล้องคอมแพคตัวละ 2-3 พัน ที่ในบ้านมีเหลือๆ มาใช้งาน ซึ่งถ้าเอาตรงๆ กล้องโทรศัพท์มือถือสมัยนี้คุณภาพดีกว่ามาก   ดังนั้นอย่าเอาข้ออ้างเรื่องอุปกรณ์มาเป็นส่วนที่ทำให้เรารู้สึกด้อยสู้เพจอื่นๆ ไม่ได้

5. วิดีโอและรูปภาพ แบบไหนดีกว่ากัน?

ส่วนเทคนิคในการนำเสนอ จะเป็นในรูปแบบภาพนิ่ง หรือรูปแบบวิดีโอนั้น หลายคนสงสัยว่าควรทำเป็นอันไหนดี? ต้องบอกว่าควรทำทั้งสองประเภทครับ แต่ต้องเปลี่ยนและเลือกช่วงเวลาที่เราจะโพสต์ คอนเทนต์แต่ละประเภทให้เหมาะสม  สำหรับวิดีโอนั้น คนจะเปิดดูในช่วงเวลาว่าง ต้องใช้เวลาในการดูคลิป ต้องมีหูฟังหรือฟังอยู่ที่บ้าน คอนเทนต์แนวนี้จึงควรโพสต์ในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวจะได้ยอดเข้าชมเยอะมาก ส่วนคอนเทนต์ที่เป็นภาพนิ่ง จะเหมาะสำหรับการเข้าชมระหว่างวันหรือเวลาเดินทาง ที่ผู้คนสามารถเปิดมือถือเพื่อเลื่่อนและไถดูเนื้อหาได้ง่ายๆ ดังนั้นคอนเทนต์ทั้ง 2 แบบถือว่าดีและไม่ควรทิ้งทั้งคู่

6.  คนเข้ามาดูเพราะสิ่งของไม่ได้ดูเพราะภาพสวย

หลายคนสร้างคอนเทนต์เพื่อความสวย โดยหลุดโฟกัสในสิ่งที่ผู้ชมอยากเห็น ทำไมบางคนทำภาพไม่ได้สวยแต่มีคนดูและติดตามเยอะกว่าเพจที่มีคนทำภาพสวยๆ นั่นเพราะว่าเขาสามารถตอบโจทย์ในสิ่งที่คนอยากดูได้มากกว่า เช่นทางผมทำรีวิวอุปกรณ์ IT เชื่อได้ว่าคนที่กดเข้ามาดูต้องอยากเห็นสิ่งของที่ผมรีวิวมากกว่าอยากเห็นหน้าผม อยากเห็นพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ของตัวเครื่องมากกว่าที่จะเห็นฉากหลังไฟหลังสวยๆ  ดังนั้น เวลาเราจะสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาแต่ละชิ้น ต้องพิจารณาดูว่า คนเข้ามาดูเพจเราเพราะอะไร ที่สำคัญอย่าอย่าโฟกัสผิดจุด!

ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ผมเคยผ่านการทำสื่อออนไลน์มากกว่า 5 ปี ที่เอามาบอกเล่าต่อ ไม่มีผิด และไม่มีถูก 100% ลองนำไปเป็นแนวทางและปรับใช้กันดูครับ และจงจำเอาไว้ว่า อย่าหยุดเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เพราะโลกของเทคโนโลยีนั้นวิ่งไปไวมาก

    โดย นพพล มาลีรัตน์มงคล เจ้าของเว็บไซต์และเพจดัง ExtremeIT